Phrase

Phrase คืออะไร มีอะไรบ้าง เข้าใจพื้นฐานสำคัญของวลีภาษาอังกฤษ

Phrase

น้องๆ ที่สนใจเรียนภาษาอังกฤษ อยากพัฒนาตัวเองให้เรียนภาษาอังกฤษเก่งขึ้น เกรดดีขึ้น สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือพื้นฐาน Grammar ที่แน่นและแม่นยำ ซึ่งวันนี้ Premier Prep จะมาช่วยปูพื้นฐานสำคัญในเรื่องของวลีภาษาอังกฤษกัน

 

Phrase คือ

Phrase คือกลุ่มคำที่ประกอบด้วยคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป ไม่มีประธาน ไม่มีกริยาแท้ โดยอาจมีคำหลักเป็นคำบุพบท (Preposition), คำคุณศัพท์ (Adjective), Gerund (V. -ing), Past Participle (V. -ed) จึงทำให้ความหมายนั้นยังไม่สมบูรณ์เท่ากับประโยค มีหน้าที่ได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับชนิดของวลีและการวางในประโยค

 

Phrase ต่างจาก Clause อย่างไร

Phrase และ Clause มีสิ่งที่เหมือนกันคือ เป็นส่วนหนึ่งของประโยค (Part of sentence) แต่จะมีความหมายและโครงสร้างที่ต่างกันออกไป มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • Phrase หรือ วลี
    • ประกอบด้วยคำตั้งแต่สองคำขึ้นไปมาอยู่รวมกัน
    • ไม่มีประธานหรือกริยา
    • มีความหมายไม่สมบูรณ์
    • ไม่สามารถอยู่เดี่ยวๆ ได้
  • Clause หรือ อนุประโยค
    • ประกอบด้วยคำตั้งแต่สองคำขึ้นไปมาอยู่รวมกัน
    • มีทั้งประธานและกริยา
    • แบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อย คือ Dependent clause และ Independent clause
      • Independent clause มีโครงสร้างประโยคและความหมายสมบูรณ์ภายในตัว และสามารถอยู่เดี่ยวๆ ได้
      • Dependent clause จำเป็นต้องเชื่อมกับอีก 1 Clause เพื่อทำให้โครงสร้างประโยคและความหมายสมบูรณ์ อยู่เดี่ยวๆ ไม่ได้

 

Type of phrase มีอะไรบ้าง

Type of phrase หรือ ชนิดของวลี สามารถแบ่งออกได้เป็น 7 ประเภท ดังนี้

  • Noun phrase
  • Verb phrase
  • Adjective phrase
  • Adverbial phrase
  • Prepositional phrase
  • Gerund phrase
  • Participial phrase

 

1. Noun phrase

Noun phrase คือ นามวลี ประกอบด้วยคำหลักคือคำนาม ที่มาพร้อมกับคำอื่นๆ ที่มาขยายความเพิ่มเติม (Modifier) ซึ่งสามารถเป็นได้ทั้ง Articles (a, an, the), คำบอกปริมาณ (Quantifiers เช่น some, a lot, a little), คำสรรพนามชี้เฉพาะ (Demonstratives เช่น this, that, those), คำสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของ  (Possessives เช่น his, her, their), คำคุณศัพท์ (Adjective) หรือ คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb)

Noun phrase สามารถทำหน้าที่ได้เหมือนคำนามปกติ กล่าวคือเป็นได้ทั้งประธาน (Subject) กรรม (Object) ของประโยค และกรรมหลังบุพบท

ตัวอย่างประโยค Noun phrase

  • A toy that I bought yesterday is lost. (A toy that I bought yesterday ทำหน้าที่เป็นประธาน)
  • Someone stole my makeups. (my makeups ทำหน้าที่เป็นกรรมของประโยค)
  • I’m interested in political issues. (political issues ทำหน้าที่เป็นกรรมของบุพบท)

 

2. Verb phrase

Verb phrase คือ กริยาวลี ประกอบด้วยกริยาหลัก (Main verb) และอาจมีกริยาช่วยกลุ่ม Modal หรือ Auxiliary verb วลีชนิดนี้เป็นวลีที่ทำหน้าที่เหมือนคำกริยาปกติ

ตัวอย่างประโยค Verb phrase

  • I can speak Thai and Chinese.
  • She is watching Barbie on Netflix.
  • They have been playing football for two hours.

 

3. Adjective phrase

Adjective phrase คือ คุณศัพท์วลี เป็นกลุ่มคำที่มีคำคุณศัพท์เป็นคำหลัก และอาจมีคำอื่นๆ ขยายคำคุณศัพท์นั้น เช่น คำกริยาวิเศษณ์ (Adverb) หรือบุพบทวลี (Prepositional phrase) วลีชนิดนี้เป็นวลีที่ทำหน้าที่เหมือนคำคุณศัพท์ปกติ กล่าวคือขยายคำนามหรือคำสรรพนาม โดยจะวางอยู่หน้าหรือหลังของคำนาม / คำสรรพนามก็ได้

ตัวอย่างประโยค Adjective phrase

  • Elsa has long hair. (long เป็น Adjective phrase)
  • Jasmine enjoys a very interesting life in Paris. (very interesting เป็น Adjective phrase ที่มี interesting เป็นคำหลัก และมี very เป็น Adverb ขยายอยู่)
  • Ron is afraid of spiders. (afraid of spiders เป็น Adjective phrase ที่มี afraid เป็นคำหลัก และมี of spiders เป็น Prepositional Phrase ขยายอยู่)

 

4. Adverbial phrase

Adverbial phrase คือ กริยาวิเศษณ์วลี เป็นกลุ่มคำที่มีคำกริยาวิเศษณ์เป็นคำหลัก และอาจมีคำขยายอื่นๆ เป็นวลีทำหน้าที่เหมือนคำกริยาวิเศษณ์ คือ ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์อื่นๆ

ตัวอย่างประโยค Adverbial phrase

  • We waited anxiously for the test results. (anxiously เป็น Adverbial phrase ขยาย waited)
  • The car is impressively fast. (impressively เป็น Adverbial phrase ขยาย fast)
  • Hirochi goes to the gym every evening. (every evening เป็น Adverbial phrase ขยาย goes to the gym)
  • We have to submit our essays by the end of June. (by the end of June เป็น Adverbial phrase ขยาย have to submit)

 

5. Prepositional phrase

Prepositional phrase คือ บุพบทวลี เป็นกลุ่มคำที่มีคำบุพบทเป็นคำหลัก ซึ่งจะขึ้นต้นเสมอแล้วตามด้วยกรรมของบุพบท ซึ่งเป็นคำนามหรือคำสรรพนามก็ได้ วลีชนิดนี้สามารถทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์หรือคำกริยาวิเศษณ์ เพื่อขยายความคำนามและคำกริยา

ตัวอย่างประโยค Prepositional phrase

  • The cat on the roof is staring at the birds. (on the roof เป็น Prepositional phrase ขยาย cat)
  • Her kid is coloring on the wall.  (on the wall เป็น Prepositional phrase ขยาย is coloring)
  • We kept leftovers inside the cupboard. (inside the cupboard เป็น Prepositional phrase ขยาย kept)

 

6. Gerund phrase

Gerund phrase คือ วลีที่มี Gerund (V. -ing) เป็นคำหลัก ซึ่งอาจจะมีโครงสร้างคล้ายคลึงกับ Verb phrase แต่ Gerund phrase นั้นจะทำหน้าที่เหมือนคำนาม คือ เป็นประธานของประโยค กรรมของกริยา กรรมของคำบุพบท หรือส่วนเติมเต็มหลัง Linking verb

ตัวอย่างประโยค Gerund phrase

  • John’s hobby is playing the piano. (playing the piano เป็น Gerund phrase เป็นส่วนเติมเต็มหลัง is ที่เป็น Linking verb)
  • Cleaning the house is my mom’s daily routine. (Cleaning the house เป็น Gerund phrase เป็นประธานของประโยค)

 

7. Participial phrase

Participial phrase คือ วลีที่มี Present participle (V.ing) หรือ Past participle (V.3) เป็นคำหลัก โดยอาจมีกรรมหรือส่วนขยายเพิ่มเติม วลีชนิดนี้ทำหน้าที่เหมือนคำคุณศัพท์ คือขยายคำนามในประโยคเสมอ บางประโยคอาจใช้เครื่องหมายจุลภาค (comma) คั่นระหว่างคำนามและ Participial phrase

ตัวอย่างประโยค Participial phrase

  • There was terrifying thunder at midnight. (terrifying เป็น Present participle ขยาย thunder)
  • The dog chasing a butterfly is mine. (chasing a butterfly เป็น Present participle ขยาย the dog)
  • These crashed cars are awaiting repair. (crashed เป็น Past participle ขยาย cars)
  • Exhausted from the long day, she collapsed onto the bed. (Exhausted from the long day เป็น Past participle ขยาย she)
  • Pita Limjaroenrat, known as the candidate for prime minister from the Move Forward party, is giving an interview to a BBC reporter. (Past participle ขยาย Pita Limjaroenrat)

 

Phrase ใช้ยังไง

หน้าที่ของ Phrase นั้นขึ้นอยู่กับชนิดของ Phrase นั้นๆ โดยสามารถเป็นได้ทั้งประธาน กริยา กรรม ส่วนเติมเต็มของประโยค ซึ่ง Phrase นั้นประกอบด้วยคำตั้งแต่ 2 คำขึ้นไป สามารถมีกี่คำก็ได้ไม่จำกัดจำนวน เพียงแต่ต้องถูกหลักไวยากรณ์

 

Phrase สรุป

สรุปแล้วนั้น Phrase ≠ Sentence เพียงแต่ว่าเป็นส่วนประกอบหนึ่งของประโยค (Parts of Sentence) เท่านั้น หากน้องๆ สามารถทำความเข้าใจกับ Phrase ได้แล้ว จะเป็นประโยชน์ในการเขียน Essay เป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้น้องๆ สามารถแต่งประโยคได้มีความ Professional มากยิ่งขึ้น มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้เกิด Sentence fragment ใน Essay ได้ด้วย

การเรียนภาษาอังกฤษ ต้องรู้ตั้งแต่พื้นฐานแบบนี้ถึงจะดีค่ะ น้องๆ สามารถมาลงเรียนคอร์สเรียนภาษาอังกฤษ Premier Prep ได้เลย พี่ๆ พร้อมสอนน้องๆ ให้ได้เกรด 4 ภาษาอังกฤษ และคว้าที่นั่งมหาลัยในฝันค่ะ

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ชั่วโมง
นาที

ดีลดี ดีลเดียวก่อนหมดวันแห่งความรัก สมัครเลย

วันนี้เท่านั้น! รับ ID Book ฟรีทันที

ที่สาขาออนดีมานด์

พี่ออนดี้ส่งโมเมนต์สุดพิเศษให้น้อง

ต้อนรับวันวาเลนไทน์

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

พบกับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ส่วนลดสูงสุด 500 บาท
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !

นับถอยหลังก่อนสอบเข้าเตรียมอุดม (9 มี.ค. 67)

Days
3 ชม สุดท้ายแล้วสมัครคอร์เลย
ส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท
รับฟรี! ชุดแนวข้อสอบ TPAT3
วันสุดท้ายแล้ว
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
โปรสุดท้าย NETSAT
เพื่อน้องมข. อีก 14 วันก่อนสอบ
โปรสุดท้าย เพื่อน้อง TU
อีก 1 เดือน ก่อนสอบ
ด่วน LIVEติว เลข โค้งสุดท้าย
ก่อนสอบเตรียมอุดมฯ