Verb

Verb คืออะไร มีหน้าที่อะไร เข้าใจคำกริยาภาษาอังกฤษ พื้นฐานสุดสำคัญ

Verb

Verb หรือ คำกริยา เป็นหนึ่งใน Part of Speech ที่เรียกได้ว่ามีความสำคัญเป็นอย่างมากในการเรียน Grammar ภาษาอังกฤษ และเป็นสิ่งที่ข้อสอบภาษาอังกฤษส่วนใหญ่มักออกสอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ ดังนั้นแล้วน้องๆ ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง Verb ให้ดี เพื่อเป็นประโยชน์ในการทำข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยอย่าง TGAT และ A-Level ให้ได้คะแนนดี โดยพี่ๆ Premier Prep ได้ทำการสรุปเนื้อหาเกี่ยวกับ Verb มาให้ดังต่อไปนี้

 

Verb คืออะไร

Verb คือ คำหรือกลุ่มคำที่บอกถึงการกระทำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรือจิตใจ คำกริยายังอธิบายสถานะ หรือประสบการณ์อีกด้วย โดยทุกประโยคต้องมีกริยาอย่างน้อยหนึ่งคำ ถ้าไม่มีคำกริยา แสดงว่าเป็นประโยคที่ไม่สมบูรณ์นั่นเอง

 

Verb มีอะไรบ้าง มีกี่ประเภท

เกณฑ์การจำแนกประเภทของ Verb มีด้วยกัน 2 เกณฑ์ คือ แบ่งประเภทของ Verb ตามความหมายของ Verb เอง และแบ่งประเภทของ Verb เมื่ออยู่ในประโยค โดยส่วนใหญ่แล้ว สิ่งที่มักจะเจอในข้อสอบจะเป็นการจำแนกประเภทของ Verb ในประโยคเสียมากกว่า ดังนั้นแล้ว Premier Prep จะมาอธิบาย Verb ว่ามีกี่ประเภท ตามรูปแบบของ Verb ที่อยู่ในประโยค

 

Verb แบ่งออกเป็น 2 ประเภทดังนี้

  • Finite verb (กริยาแท้)
  • Non-finite verb (กริยาไม่แท้)

 

Finite verb (กริยาแท้)

Finite verb หรือ คำกริยาแท้ ทำหน้าที่แสดงอาการหรือการกระทำของประธานในประโยค  ประโยคที่สมบูรณ์จะต้องมีกริยาแท้ที่เป็นกริยาหลักอย่างน้อย 1 ตัว และจะถูกผันรูปตาม Subject, Mood และ Tense ในประโยค

 

Verb ผันตาม subject

Finite verb ผันรูปตาม Subject

  • กรณีที่ Subject เป็นเอกพจน์ Verb จะเติม -s / -es
  • Tim loves playing football with his friends.
  • Mom washes dishes after dinner.
  • กรณีที่ Subject เป็นพหูพจน์ รวมถึง I รูป Verb จะคงรูปเดิม
  • We brush our teeth twice a day.
  • I eat cereal with milk for breakfast every day.

 

Verb ผันตาม tense

Finite verb ผันรูปตาม Tense ทั้ง 12 Tenses

Present tense

  • Present simple (S. + V. 1 (-s/-es))

She puts on make-up every day.

  • Present continuous (S. + V. to be (is/am/are) + V. ing)

The dog is wagging its tail.

  • Present perfect (S. + V. to have (has/have) + V. 3)

I have worked in this school for a year.

  • Present perfect continuous (S. + V. to have (has/have) + been + V. ing)

He has been waiting for his girlfriend for three hours.

 

Past tense

  • Past simple (S. + V.2)

He slept on the floor last night.

  • Past continuous (S. + V. to be (was/were) + V. ing)

She was trying to lose weight.

  • Past perfect (S. + V. to have (had) + V. 3)

Alex had never been to a nightclub until last night.

  • Past perfect continuous (S. + V. to have (had) + been + V. ing)

I had been falling asleep for two hours before you called.

 

Future tense

  • Future simple (S. + will + V. inf)

Dan will travel to Africa next month.

  • Future continuous (S. + will be + V. ing)

I will be going to the pool in the evening.

  • Future perfect (S. + will have + V. 3)

Lyla will have left before you get there.

  • Future perfect continuous (S. + will have been + V. ing)

My poor dog will have been waiting outside all day because my brother forgot to open the door.

 

Verb ผันตาม mood

Finite verb ผันรูปตาม Mood ซึ่ง Mood คือลักษณะไวยากรณ์ที่สะท้อนทัศนคติของผู้พูดหรือเขียนประโยคนั้น ๆ เช่น บอกเล่า ถาม สั่ง สมมติ เป็นต้น ซึ่งแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท ดังนี้

  • Indicative mood เป็นลักษณะการพูดเชิงบอกเล่าหรือคำถาม จะผัน Verb ตาม Subject และ Tense ซึ่งก็คือประโยคบอกเล่าหรือประโยคคำถามทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันนั่นเอง
  • Imperative mood เป็นลักษณะการพูดที่แสดงคำสั่งจะมีการละ Subject ของประโยคคือ ซึ่งก็คือ You ไว้ในฐานที่เข้าใจ และกริยาจะอยู่ในรูปไม่ผัน ตัวอย่างเช่น
  • Do not return home after 10 p.m.
  • Please remember to turn off the air conditioner before you leave.
  • Subjunctive mood เป็นลักษณะการพูดถึงสถานการณ์สมมติหรือเพื่อแสดงความปรารถนา ข้อเสนอแนะ หรือคำสั่ง มักปรากฏคำกริยาเหล่านี้ command, purpose, suggest, ask, insist, demand คำกริยาอีกตัวที่ตามมาในประโยคย่อยจะไม่ผันไปตาม Subject และ Tense ตัวอย่างเช่น
  • The police commanded that the driver stop the car. (ไม่ใช่ stops หรือ stopped)
  • I propose that we postpone a meeting.
  • The doctor suggested that she stop eating seafood. (ไม่ใช่ stops หรือ stopped)
  • The guard asks that you not take photos. (ไม่ใช่ don’t)
  • The teacher insisted we sit down. (ไม่ใช่ sat)
  • I demand that everyone have the right to vote. (ไม่ใช่ has)

 

Non-finite verb (กริยาไม่แท้)

Non-finite verb หรือ คำกริยาไม่แท้ เป็นคำกริยาที่ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นกริยาของประโยค แต่อาจทำหน้าเป็นประธาน กรรม ส่วนเติมเต็มของประโยค หรือส่วนขยาย และจะไม่ผันตาม Subject, Mood และ Tense

 

Non-finite verb แบ่งออกเป็น 3 ชนิดดังนี้

  • Infinitive
  • Gerund
  • Participle

Infinitive

คำกริยาไม่แท้ที่เป็น Infinitive คือคำกริยารูปปกติโดยไม่เติม s/-es ไม่ผันเป็นช่อง 2 หรือ 3 และไม่เติม -ing สามารถแบ่งออกกเป็น 2 ชนิดย่อยได้ดังต่อไปนี้

Infinitive with to

Infinitive with to คือ คำกริยารูป infinitive ที่มี to นำหน้า ทำหน้าที่เป็นคำนาม คำคุณศัพท์ หรือคำกริยาวิเศษณ์ของประโยค ตัวอย่างเช่น

  • To stay with you is all I want. (เป็นประธาน)
  • She tried to prepare dinner for her husband. (เป็นกรรม)
  • I have too much homework to do. (เป็นคำคุณศัพท์ขยาย homework)
  • Are you ready to listen? (เป็นคำกริยาวิเศษณ์ขยาย ready)
Infinitive without to

Infinitive without to คือกริยารูป Infinitive ที่ไม่มี to นำหน้า รูปแบบที่มักพบเห็นคือโครงสร้างที่ตามหลัง modal verbs ( e.g. can, could, may, might, will, would, shall, should, must) ซึ่งจะได้เป็นกริยาแท้ ตัวอย่างเช่น

  • I can drive you home tonight.
  • Could I have some more sugar?
  • Don’t eat cookies. It may contain peanuts to which you are allergic.
  • The rain might have stopped by now.
  • It will be late if we don’t leave now.
  • I shall never forget you.
  • Dogs and cats shouldn’t eat human foods.
  • You must tell him to come here immediately.

 

Gerund

Gerund คือ คำกริยาที่เติม -ing (V. ing) ทำหน้าที่เสมือนคำนามคือเป็นได้ทั้งประธาน (Subject) กรรมตรง (Direct Object) กรรมของคำบุพบท (Object of a Preposition) และส่วนเติมเต็ม (Complement)  ของประโยค ตัวอย่างเช่น

  • Scuba diving is challenging for me. (เป็นประธาน)
  • My dad tried to stop smoking. (เป็นกรรม)
  • Everyone enjoyed Post Malone’s singing. (เป็นกรรม)
  • Would you like to play PlayStation instead of watching Netflix? (เป็นกรรมของคำบุพบท)
  • My weekend chore is cleaning the bathroom. (เป็นส่วนเติมเต็ม)

 

Participle

Participle แบ่งออกเป็น 2 ชนิดย่อย คือ Present participle (V. ing) และ Past participle (V. -ed / V. 3) ทำหน้าที่เสมือนคำคุณศัพท์ คือขยายคำนามหรือคำสรรพนามในประโยค ถ้าใช้รูป Present participle (V.ing) หมายถึงคำที่ถูกขยายนั้นทำกริยา V.ing เอง (Active voice) แต่ถ้าใช้รูป Past participle (V.3) หมายถึงคำที่ถูกขยายนั้นถูกทำกริยา V.3 (Passive voice) ตัวอย่างเช่น

  • The flowers blooming in the garden looked beautiful. (ดอกไม้บานเอง)
  • These abandoned kittens have already got a new home. (ลูกแมวถูกทิ้ง)
  • The broken door has been replaced. (ประตูถูกทำให้เสียหาย)

 

 สรุป Verb

Verb หรือ คำกริยา เป็นชนิดของคำใน Part of Speech ที่สำคัญที่น้องๆ ควรรู้และทำความเข้าใจ เป็นคำที่เราต้องเจอในทุกๆ ประโยค เป็นคำที่ผันได้หลายรูปแบบ ซึ่งในข้อสอบภาษาอังกฤษจะออกสอบเกี่ยวกับเรื่อง Verb บ่อยมาก Premier Prep หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับน้องๆ ทุกคน หรือหากอยากเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม สามารถมาลงเรียนคอร์สภาษาอังกฤษที่ Premier Prep พี่ๆ และครูทุกท่านยินดีต้อนรับ

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ชั่วโมง
นาที

ดีลดี ดีลเดียวก่อนหมดวันแห่งความรัก สมัครเลย

วันนี้เท่านั้น! รับ ID Book ฟรีทันที

ที่สาขาออนดีมานด์

พี่ออนดี้ส่งโมเมนต์สุดพิเศษให้น้อง

ต้อนรับวันวาเลนไทน์

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

พบกับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ส่วนลดสูงสุด 500 บาท
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !

นับถอยหลังก่อนสอบเข้าเตรียมอุดม (9 มี.ค. 67)

Days
3 ชม สุดท้ายแล้วสมัครคอร์เลย
ส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท
รับฟรี! ชุดแนวข้อสอบ TPAT3
วันสุดท้ายแล้ว
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
โปรสุดท้าย NETSAT
เพื่อน้องมข. อีก 14 วันก่อนสอบ
โปรสุดท้าย เพื่อน้อง TU
อีก 1 เดือน ก่อนสอบ
ด่วน LIVEติว เลข โค้งสุดท้าย
ก่อนสอบเตรียมอุดมฯ