เส้นทางสู่ความเป็นที่ 1 สายวิทย์-คณิต สนามสอบเตรียมอุดมฯ, KVIS, MWIT
บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกเส้นทางความสำเร็จของ น้องชูก้า (อังกูร พิทักษา) อดีตนักเรียนสาธิต มศว ปทุมวัน ผู้สอบติด KVIS และ MWIT ตัวจริง รวมถึงคว้าอันดับ 1 สายวิทย์-คณิตของเตรียมอุดมศึกษา มาดูกันว่าเคล็ดลับการเตรียมตัวและการเรียนรู้ของน้องชูก้าร์มีอะไรบ้าง
จุดเริ่มต้นของความมุ่งมั่น
จุดเริ่มต้นของความอยากเข้าโรงเรียนดังเกิดขึ้นตั้งแต่ ม.1 เมื่อคุณครูที่ระยองให้ข้อมูลและแนะนำโรงเรียน KVIS และ MWIT แม้ในตอนแรกจะคิดว่าโรงเรียนเหล่านี้ดูยากเกินไปและตั้งใจจะเข้าเตรียมอุดมฯ มากกว่า แต่การได้รับข้อมูลตั้งแต่เนิ่นๆ ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีสำหรับการวางแผน
การได้ไป Open House ของ KVIS ตอน ม.3 ก็เป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ที่จุดประกายความสนใจให้กับการเรียนในโรงเรียนวิทยาศาสตร์มากขึ้น การได้สัมผัสบรรยากาศและข้อมูลของโรงเรียนเหล่านี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจและกำหนดเป้าหมายที่ชัด
การวางแผนการเรียน
น้องชูก้าร์เริ่มต้นการเตรียมตัวอย่างเป็นระบบตั้งแต่ช่วงมัธยมศึกษาตอนต้น ดังนี้
- คณิตศาสตร์: เป็นวิชาที่ไม่มีแผนชัดเจนว่าจะเริ่มเมื่อไหร่ เพราะเรียนมาตลอดทุกสัปดาห์ตั้งแต่เริ่มต้น แสดงให้เห็นถึงความสม่ำเสมอและการสะสมความรู้มาอย่างต่อเนื่อง
- วิทยาศาสตร์: เริ่มจริงจังกับการเรียนวิทยาศาสตร์ในช่วง ม.2 เพราะตอน ม.1 ยังไม่เห็นภาพว่าจะเรียนวิทยาศาสตร์ให้เข้าใจได้อย่างไร เนื่องจากเนื้อหาที่เยอะมาก การเริ่มทำความเข้าใจและจริงจังกับวิชาในแต่ละวิชาเป็นสิ่งสำคัญ
- ภาษาอังกฤษ: มีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้วจากการเรียนหลักสูตร EP ทำให้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่คุ้นเคยและไม่เป็นอุปสรรค
- ภาษาไทยและสังคมศึกษา: เริ่มเก็บเนื้อหาพร้อมกันในช่วง ม.2 เทอม 2 ซึ่งถือว่าค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับนักเรียนส่วนใหญ่ที่มักจะไปเก็บในช่วงใกล้สอบ เพราะว่าเรียนตามเพื่อน แต่การเริ่มต้นเร็วก็ช่วยให้มีเวลาเตรียมตัวและทบทวนได้มากขึ้น
เคล็ดลับการเรียนในแต่ละวิชา
คณิตศาสตร์
รีบเก็บเนื้อหาคณิตศาสตร์ตอน ม.2 หรือช้ากว่านั้นอาจช้าเกินไป เพราะถ้าพื้นฐานไม่แน่นและไม่เข้าใจจริงๆ การเรียนต่อก็จะไม่มีความสุขและเหนื่อยเปล่าๆ ควรเริ่มเก็บพื้นฐานคณิตศาสตร์ตั้งแต่วันนี้ หรือช้าสุดไม่ควรเกิน ม.1 เทอม 2 อีกสิ่งสำคัญ การทำโจทย์สำคัญที่สุด การฟังและจดตามเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ การทำโจทย์จะช่วยให้เข้าใจกระบวนการคิดและเพิ่มความเร็วความคล่องตัวในการแก้ปัญหา การทำโจทย์ประมาณ 20 ข้อต่อวัน สัปดาห์ละ 3 วัน แสดงให้เห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำเยอะมาก แต่ต้องทำอย่างสม่ำเสมอ
ฟิสิกส์
สำหรับฟิสิกส์ ซึ่งเป็นวิชาที่คล้ายกับคณิตศาสตร์ความสำคัญของการ เข้าใจตัวสูตร และให้ความสำคัญกับ เรื่องหน่วย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการแก้โจทย์ปัญหา
ชีวะและเคมี
แม้จะไม่ได้เชี่ยวชาญเคมีมากนัก แต่สำหรับชีวะ ชูก้าร์รู้สึกสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทำโจทย์วนไป นอกจากเรียนพิเศษแล้ว ยังนำโจทย์มานั่งดูและทำวนไปเรื่อยๆ เพื่อช่วยให้จดจำเนื้อหาได้
ภาษาอังกฤษ
สำหรับน้องๆ ที่ไม่ถนัดภาษาอังกฤษ แนะนำให้ลองเปลี่ยนสไตล์การใช้ชีวิตให้มีภาษาอังกฤษเข้ามาปนอยู่เรื่อยๆ เช่น เสพสื่อภาษาอังกฤษ: ติดตาม Instagram ที่เป็นภาษาอังกฤษ หรือดู YouTube ที่มีเนื้อหาดีๆ เป็นภาษาอังกฤษ การคลุกคลีกับภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันจะช่วยให้คุ้นเคยและเข้าใจได้โดยไม่รู้สึกว่ากำลังเรียน
ภาษาไทยและสังคมศึกษา
ภาษาไทย: ในช่วง ม.3 เทอม 2 นำสิ่งที่จดบันทึกไว้มาอ่านทบทวนและพยายามทำความเข้าใจ โดยเฉพาะส่วนของ หลักไวยากรณ์ ซึ่งสามารถเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันได้
สังคมศึกษา แนะนำให้ ฟังข่าวสารและติดตามเหตุการณ์ปัจจุบันอยู่เสมอ เหมือนการฟังเรื่องชาวบ้าน การเสพข่าวบ่อยๆ จะช่วยให้จดจำข้อมูลและนำไปใช้ในการทำข้อสอบได้
รีวิวข้อสอบ สนามสอบและแนวทางที่ต้องรู้
คณิตศาสตร์: เตรียมอุดมฯ และ KVIS ยากพอๆ กัน
- KVIS: ยากในแง่ของการคิดหลายขั้นตอน และโจทย์มักจะมาในรูปแบบที่ต้องใช้ความเข้าใจสูง
- เตรียมอุดมศึกษา: ต้องช่ำชองการทำโจทย์อย่างมาก เพื่อให้สามารถทำข้อสอบได้ทันเวลาและแม่นยำ
วิทยาศาสตร์: KVIS ยากกว่า MWIT
- KVIS: ข้อสอบวิทยาศาสตร์ปีนี้เน้นการวิเคราะห์ค่อนข้างมาก ยากกว่า MWIT
- MWIT: ข้อสอบวิเคราะห์ไม่เยอะมาก มีส่วนที่เน้นการจำอยู่บ้าง
- เตรียมอุดมศึกษา: ข้อสอบวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับกลางๆ ฟิสิกส์ค่อนข้างง่าย
ชีวะและเคมี: เก็บครึ่งหนึ่งพอเอาตัวรอด
สำหรับชีวะและเคมี น้องชูก้าร์ทำคะแนนได้ประมาณครึ่งหนึ่งของทั้งสองวิชา ซึ่งถือเป็นการเอาตัวรอดและรักษาคะแนนได้ดี
ภาษาอังกฤษ: ตรงตามที่เตรียมมา
ข้อสอบภาษาอังกฤษของเตรียมอุดมศึกษาไม่ได้ยากขึ้นมากนัก ใช้เวลาทำประมาณ 30 นาที และรู้สึกเหมือนกำลังทำแบบฝึกหัดทั่วไป คำศัพท์ไม่ได้ยากเกินความสามารถมากนัก
ภาษาไทยและสังคมศึกษา: เน้นข่าวสารและหลักภาษา
สังคมศึกษา: ปีนี้ข้อสอบเน้น ข่าวสาร อย่างมาก ทฤษฎีต่างๆ ที่ติวมาไม่ค่อยออก ควรเจาะลึกข่าวสารมากกว่าแค่หัวข้อ
ภาษาไทย: เก็บคะแนนได้จากส่วนของ คำศัพท์ และการ อ่านบทความหรือกลอน
การเตรียมพร้อมรับมือความกดดัน
- KVIS และ MWIT: บรรยากาศโปร่งสบาย ไม่แออัด แต่ไม่มีน้ำดื่มให้ ต้องเตรียมไปเอง
- เตรียมอุดมศึกษา: ทุกคนรวมศูนย์สอบที่เดียวกัน ทำให้บรรยากาศค่อนข้างบีบคั้น โดยเฉพาะพาร์ทเช้าที่ทำสังคมก่อน ตามด้วยไทย และสุดท้ายคือเลข การบริหารเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ใช้เวลาทำไทย-สังคมเกินไปเล็กน้อย (ประมาณ 40 นาที) ทำให้รู้สึกท้อในช่วงแรก แต่ก็สามารถกู้กลับมาได้ด้วยวิชาเลข
บทเรียนจากสนามสอบ: การบริหารจัดการและจุดที่ควรเน้น
จากประสบการณ์การสอบเตรียมอุดมฯ น้องชูก้าร์ให้ข้อสังเกตว่า คณิตศาสตร์ ส่วนของเรขาคณิตค่อนข้างง่าย พีชคณิตมีข้อถึกบ้าง ต้องเลือกทำดีๆ สถิติยาก โจทย์ปัญหาเบสิกอย่างโจทย์ทำงานก็มีออก ซึ่งสามารถเก็บคะแนนได้ ภาษาไทย ส่วนของคำศัพท์อาจจะผิดไปบ้าง แต่กลอนและการอ่านบทความยังคงเป็นส่วนที่พอทำคะแนนได้
กำลังใจและเคล็ดลับจากน้องชูก้าร์
ฝากกำลังใจและข้อคิดสำคัญถึงน้องๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบว่า:
- ทำให้เต็มที่ เวลาสอบ อย่ากดดันตัวเองว่าต้องมาสอบ แต่ให้คิดว่า “วันนี้เราจะมาโชว์ฝีมือให้เต็มที่”
- จัดการกับความเครียด ความเครียดในปริมาณที่พอดีสามารถเป็นแรงผลักดันได้ ควรเก็บความเครียดนั้นไว้และหาทางออก เช่น หากทำวิชานี้ไม่ได้ ก็ไปอ่านวิชานั้นซ้ำๆ จนทำได้
- เลือกกลุ่มเพื่อนที่เหมาะสม: ควรหาเพื่อนที่มีความสามารถในการเรียนใกล้เคียงกัน เพราะอาจารย์มักจะสอนเร็วถ้าเห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่เก่ง การมีเพื่อนที่เก่งพอๆ กันจะช่วยให้ตามทันและไม่หลุดจากบทเรียน แต่ก็ไม่ควรเป็นคนเก่งที่สุดในกลุ่ม
สุดท้ายนี้ น้องชูก้าร์เชิญชวนน้องๆ ให้มา KVIS ด้วยกัน และขอให้ทุกคนที่กำลังเตรียมตัวสอบไม่ว่าจะเป็น TU, MWIT, หรือ KVIS ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ ขอให้ความเต็มที่และความต่อเนื่องนำพาให้ทุกคนไปถึงเป้าหมาย!