conjunction

Conjunction ส่วน FANBOYS Grammar คืออะไร ? ใช้ยังไงให้ถูกหลัก ในปี 2023

conjunction

สวัสดีเด็กๆ จากที่คราวที่แล้วๆ พี่ๆ ออนดีมานด์ มีแนะนำ เรื่อง แกรมม่า (Grammar) กันไปแล้วนั้นวันนี้พี่ๆ มีอีกเนื้อหาที่น่าสนใจมากสำหรับ ภาษาอังกฤษมาฝาก นั่นก็คือเรื่อง FANBOYS GRAMMAR ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ คำสันธาน หรือ Conjunction นั่นเอง เกริ่นก่อนว่า คำสันธาน คือ คำที่ใช้ เชื่อม วลี หรือประโยคย่อยเข้าด้วยกันนะ เพื่อให้การเรียงภาษา สละสลวยนั่นแหละ โดยจะแบ่งเป็น 3 กลุ่มย่อย ประมาณนี้นะ 

1 Coordinating conjunction

คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมคำ วลี หรือประโยคที่เป็นประเภทเดียวกัน หรือมีความสำคัญเท่าเทียมกัน 

2 Subordinating conjunction

คือ คำสันธานที่ใช้เชื่อมประโยคหลัก  กับประโยคย่อย ที่มีความสำคัญไม่เท่ากัน

3 Correlative conjunction คำสันธานที่ต้องใช้คู่กันเสมอ


ช้เชื่อมประโยค ที่มีความหมายสอดคล้องและเท่าเทียมกัน

ซึ่งในวันนี้เราจะไปเน้นเนื้อหา Cordinating Conjunction ที่ใช้เชื่อมวลีหรือ นำมาใช้เพื่อเชื่อมประโยคสองประโยคเข้าด้วยกันเพื่อให้เกิดเป็นความหมายที่เข้าใจง่ายขึ้น พร้อมวิธีจำแบบง่าย ไปชมกันเลย

Coordinating Conjunction

แบ่งเป็นทั้งหมด  7 ตัวด้วยกันคือ นั่นก็คือ For, And, Nor, But, Or, Yet, และ So วิธีจำง่ายๆเลยน้องๆ ก็จำคำว่า FANBOYS Grammar เลยนั่นแหละ 

ซึ่งทีมวิชาการของพี่ๆ  Premier Prep by Ondemand ได้ออกแบบวิธีการใช้ FANBOYS conjunction แบบคล่องแคล่วให้น้องๆ เข้าใจวิธีใช้ในประโยคภาษาอังกฤษ มากขึ้นตามนนี้เลย

 1. FOR แปลว่า

เริ่มจากตัวแรกเรามาดู คือF ตัวแรกของ FANBOYS นะ 

เมื่อเราใช้ For เป็นคำสันธานภาษาอังกฤษจะมีความหมายว่า “เพราะว่า” หรือ “เนื่องจาก” ใช้บอกเหตุผล และมักใช้กับบริบทที่เป็นทางการ ตัวอย่างเช่น 

 

The government has been adjusting the ti, for the situation does not go as planned.

(รัฐบาลอยู่ระหว่างปรับแผน เพราะสถานการณ์ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้)

 ปกติแล้วน้อง ๆ มักจะมองว่า For นิยมใช้อีกแบบที่ แปลว่า “สำหรับ” หรือ “เพื่อ” ใช้เพื่อบอกจุดประสงค์ หรืออาจะใช้ บอกเหตุผลที่เกิดขึ้นได้ด้วย กรณีแบบนี้เราถือว่า For เป็นคำบุพบท (Preposition) ซึ่งคำที่ใช้เชื่อมคำหรือวลี ไม่ใช่ประโยคโดยเราสามารถดูจากตัวอย่างได้ล่างนี้ได้เลยค่ะ

 I go to the coffee shop for a drink.

(ฉันไปที่ร้านกาแฟเพื่อหาอะไรดื่ม)

 I use this computer mostly for studying.

(ฉันใช้คอมพิวเตอร์เครื่องนี้นี้สำหรับการเรียนซะส่วนใหญ่)

2 AND แปลว่า

AND คือ A ตัวที่สองใน FANBOYS นะ โดย And แปลว่า “และ” มักจะถูกนำไปใช้ในการเชื่อมสองประโยคเข้าด้วยกันให้ประโยคนั้นเป็นไอเดียเดียวกัน หรือ ใช้เพื่อบอกข้อมูลเพิ่มเติมตามตัวอย่างนี้

 Kru Nanni is a great teacher, and students enjoy learning with her.

(ครูแนนนิเป็นครูที่ดีมากคนนึง และเด็กๆ ก็สนุกไปกับการเรียนกับเธอ)

 Kru Amy loves teaching grammar, vocabulary, and writing.

(ครูเอมี่ชอบที่จะสอนแกรมม่า คำศัพท์ และการเขียนภาษาอังกฤษ)

3 NOR แปลว่า

Nor แปลว่า “ไม่ใช่ทั้งสองอย่าง” โดยคำว่า Nor มักจะถูกใช้เพื่อเชื่อมประโยคสองประโยคที่มีความหมายในทางลบเข้าด้วยกัน โดยมักจะมีการใช้คู่กับ neither ในบางครั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่มีการเขียนในรูปแบบ Parallel Structure 

 Neither Kru Amy nor Kru Nanni loves to eat candy after a meal.

(ทั้งครูเอมี่และครูแนนนิไม่ชอบที่จะกินลูกอมหลังกินข้าวเสร็จ)

อย่างประโยคนี้ สิ่งที่เป็น Parallel หรือคู่ขนานกันคือคำว่า Kru Amy กับ Kru Nanni เพราะเป็นคำนามทั้งคู่ (ขนานกัน) นั่นเอง

 Somsri has never learned how to drive, nor does she have any desire to learn

(สมศรีไม่เคยที่จะเรียนขับรถ และเธอก็ไม่ได้มีความอยากเรียนรู้ที่จะเรียนขับรถเลยสักนิด)

 ผ่านไป 3 ตัวแล้วนะสำหรับ FANBOYS ต่อไป เรามาดูตัวที่ 4 ก็คือ but กันเลย

 4 BUT แปลว่า

But นั้นจริงๆ แล้วมีค่อนข้างมีความหมาย และ หลักการใช้ but ที่ค่อนข้างหลากหลาย ซึ่งสามารถแบ่งการใช้ได้ 2 ความหมายใหญ่ๆ คือ 

But แปลว่า แต่

หลักการใช้ but ในกรณีนี้คือ ต้องการเชื่อมประโยคที่มีความตรงข้ามกันหรือขัดแย้งกันให้ต่อเนื่องในหนึ่งประโยค

 Kru Nanni and Kru Amy know that English is difficult for their students, but they always try their best to make English easy for everyone.

(ครูแนนนิและครูเอมี่รู้ดีว่าภาษาอังกฤษเป็นสิ่งที่ยากสำหรับน้องๆ แต่ครูทั้งสองก็พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ภาษาอังกฤษนั้นง่ายสำหรับน้องๆ ทุกคน)

 Somsri is friendly but not very kind.
(สมศรีเป็นคนที่เข้าหาง่าย แต่ไม่คนที่ใจดีสักเท่าไหร่)

 But แปลว่า ยกเว้น หรือ นอกจาก

หลักการใช้ but ในกรณีนี้คือ ใช้บอกสิ่งที่อยู่นอกเหนือหรือว่าไม่รวมอยู่ในสิ่งที่กล่าวมา

 I have no choice but to finish my homework in time.

(ฉันไม่มีทางเลือกอื่นเลยนอกจากทำการบ้านให้เสร็จทันเวลา)

 คำว่า But ในความหมายนี้ใช้เป็น Preposition ได้ด้วย

 Everyone but you is learning English with Premier Prep.

(ทุกคนเรียนภาษาอังกฤษกับ Premier Prep ยกเว้นคุณ)

 Nobody but me does homework.
(นอกจากฉันแล้ว ไม่มีใครทำการบ้านเลย)

 5 OR แปลว่า

ต่อไป FANBOYS ตัวที่ 5 กันแล้วเกินครึ่งแล้วนะ คือ OR ที่แปลว่า “หรือ” ซึ่งใช้เมื่อต้องการเชื่อมประโยคเพื่อแสดงทางเลือก

 Somsri really wants to study English with Kru Nanni or Kru Amy.

(สมศรีอยากเรียนภาษาอังกฤษกับครูแนนนิ หรือ ครูเอมี่มากๆ)

 6 YET แปลว่า

Yet ที่เป็นคำสันธานแปลว่า “แต่” มีความหมายคล้ายคำว่า But ใช้เชื่อมสองประโยคที่มีเนื้อหาขัดแย้งกันให้อยู่ในประโยคเดียว 

 This classroom looks small, yet it can accommodate up to 50 students.

(ห้องเรียนนี้ดูเล็ก แต่รองรับนักเรียนได้ตั้ง 50 คน)

แต่น้อง ๆ อาจเคยเห็นคำว่า Yet ในอีกความหมายนั่นคือ “ยัง” หรือ “ยังไม่” กรณีนี้คำว่า Yet ทำหน้าที่เป็น Adverb ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งกับประโยคคำถามและประโยคปฏิเสธ เพื่อแสดงให้เห็นถึงช่วงเวลาระหว่างก่อนหน้านี้และปัจจุบันที่ยังไม่เกิดขึ้นค่ะ เรามาดูตัวอย่างกันเลยดีกว่า

 Have you learned English with Premier Prep yet?(คุณเรียนภาษาอังกฤษกับ Premier Prep หรือยัง?)

 Kru Nanni hasn’t eaten yet.
(ครูแนนนิยังไม่ได้กินอะไรเลย) 

7 SO แปลว่า

ต่อไปเป็น FANBOYS ตัวสุดท้ายซึ่งก็คือ So แปลว่า “ดังนั้น” ซึ่งหลักการใช้ so ในบริบทของคำสันธานภาษาอังกฤษ คือเอาไว้เชื่อมสองประโยคที่เป็นเหตุเป็นผลกันเข้าเป็นประโยคเดียวกัน

 Nobody can teach English this well, so I continue to study with Kru Nanni and Kru Amy.

(ไม่มีใครสอนภาษาอังกฤษได้ดีเท่านี้เลย ดังนั้นฉันจะเรียนกับครูแนนนิและครูเอมี่ต่อไป!)

 ก็จบกันไปแล้วนะสำหรับ เรื่อง Conjunction ในส่วนของ FANBOYS หวังว่าบทความนี้จะทำให้น้องเข้าใจในเรื่องของ Conjunction ได้มากขึ้นนะ ถ้าน้องๆ คนไหนสนใจหลักสูตรการเรียนภาษาอังกฤษที่จะช่วยให้น้องๆ มีพื้นฐานที่แข็งแรงในการสอบติดตามมหาลัยในฝันหรือเพิ่มเกรดที่เรียน

พี่ๆขอแนะนำ Premier Prep by Ondemand ที่พึ่งสำหรับน้องๆ ที่ต้องการพัฒทักษะภาษาอังกฤษแบบยั่งยืนเลยที่ Premier Prep เรามีคอร์สเรียนภาษาอังกฤษที่จะช่วยให้น้องๆ เรียนภาษาอังกฤษอย่างเป็นระบบ เข้าใจว่าแนวคิดแต่ละอย่างในภาษาอังกฤษมีความเชื่อมโยงเป็นระบบยังไง ซึ่งจะช่วยให้น้องๆ มีพื้นฐานที่แข็งแรงในการสอบติดตามมหาลัยในฝัน เหมือนกับนักเรียนของ Premier Prep กว่า 90% ที่สอบติดตามเป้าหมายค่ะ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับนักเรียน Premier Prep by Ondemand

Your subscription could not be saved. Please try again.
คุณได้ลงทะเบียนกับทางเราเรียบร้อยแล้ว

ลงทะเบียนรับคำศัพท์ ฟรี!

รับไปเลย! คำศัพท์ จำไว้ไม่ลืม By พี่แนนนิ และโค้ดส่วนลดภาษาอังกฤษ!

อย่าลืมกด LIKE 👍 Facebook Fanpage ของ ออนดีมานด์ OnDemand สถาบันกวดวิชาออนดีมานด์ เพื่อไม่ให้พลาด สาระดีๆ ข่าวสาร และสิทธิพิเศษ นะคร้าบบ

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ชั่วโมง
นาที

ดีลดี ดีลเดียวก่อนหมดวันแห่งความรัก สมัครเลย

วันนี้เท่านั้น! รับ ID Book ฟรีทันที

ที่สาขาออนดีมานด์

พี่ออนดี้ส่งโมเมนต์สุดพิเศษให้น้อง

ต้อนรับวันวาเลนไทน์

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที

พบกับข้อเสนอพิเศษสำหรับลูกค้าเก่า

เหลือเวลา

ชั่วโมง
นาที
ส่วนลดสูงสุด 500 บาท
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !

นับถอยหลังก่อนสอบเข้าเตรียมอุดม (9 มี.ค. 67)

Days
3 ชม สุดท้ายแล้วสมัครคอร์เลย
ส่วนลดสูงสุด 1,000 บาท
รับฟรี! ชุดแนวข้อสอบ TPAT3
วันสุดท้ายแล้ว
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
สิ้นสุดการรอคอย สิทธิพิเศษเฉพาะคุณ TCAS DEK68 เวอร์ชั่นใหม่ มาแล้ว !
โปรสุดท้าย NETSAT
เพื่อน้องมข. อีก 14 วันก่อนสอบ
โปรสุดท้าย เพื่อน้อง TU
อีก 1 เดือน ก่อนสอบ
ด่วน LIVEติว เลข โค้งสุดท้าย
ก่อนสอบเตรียมอุดมฯ